1.แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา ให้นักศึกษาอ่านบทความอย่างน้อย 3 บทความหรือมากกว่า ใช้ Keywordว่า "แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา"ให้เขียนเชื่อมโยง วิเคราะห์ลงในบล็อกของนักเรียน
ความหมายของแท็บเล็ต
คือ แผ่นจารึกที่เอาไว้บันทึกข้อความต่างๆ
โดยการเขียนซึ่งมีมานานแล้วในอดีต
แต่ในปัจจุบันมีการพัฒนาคอมพิวเตอร์ที่มีการปรับใช้แนวคิดนี้ขึ้นมาแทนที่
ซึ่งจะมีหลายบริษัทที่ได้ให้คำนิยามหรือการเรียกชื่อที่แตกต่างกันออกไป เช่น
แท็บเล็ตพีซี (Tablet PC) และ แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ (Tablet)
ความเป็นมาของแท็บเล็ต
จากการศึกษาวิเคราะห์ในเชิงประวัติศาสตร์มีข้อสันนิษฐานและกล่าวกันมาว่าแท็บเล็ตในยุคประวัติศาสตร์ได้เริ่มต้นจากการที่มนุษย์ได้คิดค้นเครื่องมือสำหรับการพิมพ์หรือบันทึกข้อมูลจากแผ่นเยื่อไม้ที่เคลือบด้วยขี้ผึ้งบนแผ่นไม้ในลักษณะของการเคลือบประกบกัน
2 ด้าน
ใช้ประโยชน์ในการบันทึกอักขระข้อมูล หรือการพิมพ์ภาพ
ซึ่งปรากฏหลักฐานที่ชัดเจนจากบันทึกของซิเซโร ชาวโรมัน
แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา
การใช้แท็บเล็ตโดยให้ผู้เรียนและผู้สอนมีแท็บเล็ตเป็นของตนเองเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เกิดการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยพบว่าการใช้แท็บเล้ตจะเป็นแรงจูงใจของผุ้เรียนและมีผลกระทบในทางบวก
ช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง
ช่วยส่งเสริมให้เกิดการค้นคว้าและเข้าถึงองค์ความรู้นอกห้องเรียนอย่างกว้างขวาง สำหรับในด้านการจัดการเรียนการสอนนั้น การใช้แท็บเล็ตนั้นช่วยส่งเสริมให้มีการใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอนและส่งเสริมให้มีการพัฒนาหลักสูตรหรือการจัดการเรียนการสอนที่มีเทคโนโลยีเป็นส่วนประกอบ
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตนับได้ว่าเป็นสื่อกระแสหลักที่กำลังมาแรงในสังคมยุคออนไลน์หรือสังคมสาระสนเทศระบบเปิดในปัจจุบัน
เป็นสื่อที่นำมาใช้ในทุกกลุ่มอาชีพรวมทั้งการศึกษาและการเรียนรู้ของผู้เรียนทุกระดับเนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่สร้างความสะดวกและมีประสิทธิภาพสูงในการใช้งาน
อย่างไรก็ตามนวัตกรรมและเทคโนโลยีตามกระแสสังคมจะต้องมีการวางแผนและปรับปรุงอย่างรอบคอบเพื่อให้บรรลุผลสูงสุดในการปฏิบัติ
ดังนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องในการใช้สื่อแท็บเล็ตเพื่อการศึกษาจะต้องวิเคราะห์รายละเอียดและกำหนดแนวทางที่ชัดเจนในการปรับใช้กับผู้เรียน
และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือผู้สอน คือ ครู ที่จะต้องมีทักษะในการใช้คอมพิวเตอร์
แหล่งที่มา : http://www.chusak.net/index.php?mo=3&art=41993028
http://www.tabletd.com/articles
http://www.mict.go.th/ewt_news.php?nid=5282&filename=index
แหล่งที่มา : http://www.chusak.net/index.php?mo=3&art=41993028
http://www.tabletd.com/articles
http://www.mict.go.th/ewt_news.php?nid=5282&filename=index
2.อ่านบทความเรื่องสมาคมอาเซียนอ่านบทความอย่างน้อย
3 บทความหรือมากกว่า ใช้ Keywordว่า
"สมาคมอาเซียน" ให้เขียนวิเคราะห์ ประเทศไทย ประเทศเพื่อนบ้าน
การเตรียมตัวเป็นครู นักเรียน นักศึกษา เพื่อไปสู่อาเซียนได้อย่างไร
ประชาคมอาเซียน หรือ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) เป็นองค์กรระหว่างประเทศระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
มีจุดเริ่มต้นโดยประเทศไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ได้ร่วมกันจัดตั้งสมาคม เมื่อ
เดือน ก.ค.2504 เพื่อการร่วมมือกันทาง เศรษฐกิจ
สังคมและวัฒนธรรม แต่ดำเนินการไปได้เพียง 2 ปี ก็ต้องหยุดชะงักลง
เนื่องจากความผกผันทางการเมืองระหว่างประเทศอินโดนีเซียและประเทศมาเลเซีย
จนเมื่อมีการฟื้นฟูสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ
จึงได้มีการแสวงหาหนทางความร่วมมือกันอีกครั้งจนปัจจุบันมีประเทศสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศ
วัตถุประสงค์ในการก่อตั้งประชาคมอาเซียน
1. ส่งเสริมความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ความก้าวหน้าทางสังคมและวัฒนธรรม
2. ส่งเสริมการมีเสถียรภาพ สันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค
3. ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม วิชาการ วิทยาศาสตร์ และด้านการบริหาร
4. ส่งเสริมความร่วมมือซึ่งกันและกันในการฝึกอบรมและการวิจัย
5. ส่งเสริมความร่วมมือในด้านเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม การค้า การคมนาคม การสื่อสาร และปรับปรุงมาตรฐานการดำรงชีวิต
6. ส่งเสริมการมีหลักสูตรการศึกษาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
7. ส่งเสริมความร่วมมือกับองค์กรระดับภูมิภาคและองค์กรระหว่างประเทศ
1. ส่งเสริมความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ความก้าวหน้าทางสังคมและวัฒนธรรม
2. ส่งเสริมการมีเสถียรภาพ สันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค
3. ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม วิชาการ วิทยาศาสตร์ และด้านการบริหาร
4. ส่งเสริมความร่วมมือซึ่งกันและกันในการฝึกอบรมและการวิจัย
5. ส่งเสริมความร่วมมือในด้านเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม การค้า การคมนาคม การสื่อสาร และปรับปรุงมาตรฐานการดำรงชีวิต
6. ส่งเสริมการมีหลักสูตรการศึกษาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
7. ส่งเสริมความร่วมมือกับองค์กรระดับภูมิภาคและองค์กรระหว่างประเทศ
สำหรับประเทศไทยกับการเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มอาเซียน ก็จะช่วยในเรื่องของเศรษฐกิจ
ทำให้เศรษฐกิจที่ขึ้น มาการแลกเปลี่ยนกลไกทางการค้าระหว่างประเทศ
มีการแลกเปลี่ยนกันทางวัฒนธรรมและทางสังคม
ส่งเสริมความมีสันติภาพและความมั่นคงต่อกัน เมื่อประเทศมีความมั่นคงทำให้ประเทศอื่นมีความเชื่อมั่นและกล้าที่จะมาลงทุนในประเทศไทย
เมื่อมีประเทศอื่นเข้ามาลงทุนมาก็จะทำให้เศรษฐกิจของไทยขยายตัวดีขึ้น
สำหรับการเตรียมตัวเป็นครู นักเรียน นักศึกษา คือ
ก่อนอื่นเราจะต้องมีความรู้ความสามารถในเรื่องของภาษาเราจะต้องฝึกพูดภาษาที่ใช้กันในอาเซียนเพื่อที่จะได้เปรียบในการทำงาน
และครูจะต้องมีความรู้ ความสามารถ จะต้องเป็นคนที่รู้ลึก รู้จริง
เพราะต่อไปนี้พอมีอาเซียนเข้ามาจะมีบุคคลจากภายนอกเข้ามาทำงาน
เข้ามาเป็นคู่แข่งกับเรา ดังนั้นการเตรียมตัวก็ควรจะเตรียมตัวทั้งแต่แรกเริ่มเพื่อความสบายในวันข้างหน้า
แหล่งที่มา : http://www.cityub.go.th/index.php?option=com
http://www.chusak.net/index.php?mo=3&art=41977045
http://www.thai-aec.com/418
แหล่งที่มา : http://www.cityub.go.th/index.php?option=com
http://www.chusak.net/index.php?mo=3&art=41977045
http://www.thai-aec.com/418
"การที่ครูมีความรู้ความสามารถและแสดงออกในความสามารถที่มีอยู่ให้เห็นว่าเป็นผู้มีสมรรถนะด้านการจัดการเรียนการสอนจนทำให้เป็นที่ยอมรับของเพื่อนครู
นักเรียน (นักศึกษา) และผู้ปกครอง จนทำให้เกิดกระบวนการพัฒนาอย่างมีส่วนร่วมให้เกิดในองค์กรได้"
ซึ่งครูที่ดีจะต้องมีศรัทธาต่อลูกศิษย์ทุกคนไม่ว่าจะเรียนเก่งหรือเรียนอ่อน
มีความไว้วางใจลูกศิษย์ทุกคนสามารถปรึกษาได้และครูต้องเก็บไว้เป็นความลับ
สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ลูกศิษย์ทุกคนและที่สำคัญครูต้องยอมรับในความเป็นปัจเจกบุคคล
ครูที่จะเป็นผู้นำทางการเรียนการสอนควรมีพฤติกรรม 7 ประการ คือ
1.หาหนังสือที่ติดอันดับขายที่ดีที่สุดมาอ่าน ซึ่งครูจะต้องรู้จักหาความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอ
ต้องรู้ทันในเหตุการณ์ปัจจุบันว่าปัจจุบันนี้หนังสืออะไรเป็นที่นิยมกันแล้วครูก็ต้องไปหามาอ่าน
เพื่อจะได้มีความรู้ในการสอนเด็ก
2.อยู่กับปัจจุบัน / ทันสมัย ครูจะต้องอยู่กับปัจจุบัน
จะต้องทันต่อสื่อเทคโนโลยีต่างๆจะต้องมีการสอนที่แปลกใหม่และทันสมัย
3.หาข้อมูลที่มีความรู้เกี่ยวกับเด็ก ครูจะต้องหาความรู้เกี่ยวกับเด็กอยู่เสมอเพื่อจะได้รู้ทันเกี่ยวกับเด็กและสามารถพูดคุยกับเด็กได้อย่างถูกต้อง
4.ทำให้เด็กแสดงออกซึ่งการเป็นภาวะผู้นำ ครูรู้จักการแสดงออกในทางที่ถูกต้อง
สอนให้เด็กรู้จักเป็นผู้นำ เช่น
แบ่งกลุ่มให้ทำงานแล้วให้สมาชิกในกลุ่มเปลี่ยนกันเป็นหัวหน้ากลุ่มในแต่ละครั้งที่ให้ทำงานเพื่อให้ทุกคนรู้จักการเป็นผู้นำ
5.กำหนดให้เด็กทำงานรวมกันเป็นกลุ่ม การที่เราให้เด็กรู้จักการทำงานกลุ่มจะสอนให้เด็กรู้จักในเรื่องการทำงานเป็นกลุ่ม
รู้จักการรับผิดชอบร่วมกันและความสามัคคี
6.เชิญบุคคลภายนอกมาพูดให้เด็กฟังจะทำให้เด็กมีความรู้นอกเนื่องจากที่ครูสอน
ทำให้เด็กมีความอยากรู้ อยากเรียนและสนใจเรียนมากขึ้น
7.ท้าทายให้เด็กได้คิด ครูจะต้องเป็นคนที่สอนให้เด็กรู้จักคิด
สอนให้เด็กคิดเป็น ไม่ใช่ไปบอกให้เด็กรู้
แหล่งที่มา : http://www.gotoknow.org/blogs/posts/315219
แหล่งที่มา : http://www.gotoknow.org/blogs/posts/315219
4.ให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นและประเมินวิชานี้ว่า
การเรียนรู้โดยใช้บล็อก นักศึกษามีวิธีการเรียนรู้อย่างไร
แสดงความคิดเห็นหากจะเรียนรู้โดยใช้บล็อก ต่อไปข้างหน้าโอกาสจะเป็นอย่างไร ควรที่จะให้คะแนนวิชานี้อย่างไร
และหานักเรียนต้องการจะได้เกรดในวิชานี้ นักเรียนจะต้องพิจารณาว่า
สำหรับการเรียนวิชาการจัดการบริหารในชั้นเรียน
เป็นเรียนโดยการใช้บล็อกซึ่งก็ไม่ได้เคยเรียนในวิชาไหนมาก่อนถือว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่
ซึ่งการเรียนการสอนแบบนี้ถือว่าเป็นอะไรที่ดีมากเป็นการเรียนผ่านคอมพิวเตอร์โดยไม่ต้องใช้กระดาษไม่ต้องเปลืองทรัพยากรธรรมชาติและช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ด้วย
เป็นการเรียนการสอนที่ไม่ว่าผู้เรียนอยู่ที่ไหนสามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลาเพียงแต่ให้มีอินเตอร์เน็ต
สำหรับการที่ได้เรียนการสร้างบล็อกทำให้มีความรู้ที่ใหม่ๆ
ซึ่งบล็อกนี้จะมีลูกเล่นที่หลากหลาย
สามารถนำเอาไปประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันเวลาเราไปฝึกสอนหรือว่าเราไปสอนจริงที่โรงเรียนสามารถนำไปสอนให้กับเด็กได้
และเวลานำเสนองานต่างๆก็สามารถนำเสนอได้ด้วยเมื่อเราทำงานแล้วยังไม่พอใจตรงไหนก็สามารถแก้ไขใหม่อยู่ได้จนกว่าเราจะพอใจ
และผู้อื่นสามารถเข้ามาดูความรู้ที่เราเขียนลงไปได้ด้วยซึ่งสามมารถถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้อื่นได้ด้วยและที่สำคัญการที่เราทำบล็อกเป็นสามารถสร้างรายได้ให้เราได้ด้วยเวลาที่เราไปเป็นวิทยาการ
เกรดที่ควรได้ในวิชานี้ คือ เกรด A เพราะ
1.ในการทำงานแต่ละครั้งตนเองมีความพยายามมาก
ในการเรียนแต่ละครั้งแบกโน๊ตบุคมาเรียนทุกครั้งและก็หนักมากด้วย
2.การเข้าเรียน เข้าเรียนทุกครั้งไม่เคยขาดสักครั้งเดียว
แม้ว่าในบางครั้งจะเข้าเรียนสายบ้างก็ตาม
3.การส่งงาน ส่งงานทุกครั้งตามที่อาจารย์สั่ง
ไม่เคยขาดส่งงานเลยสักครั้ง และงานที่ทำแต่ละครั้งจะทำคนเดียว
จะทำตามความคิดของตนเองไม่เคยคัดลอกของเพื่อนเลยหรือบางครั้งอาจจะเอาแนวมาจากอินเตอร์เน็ตบ้างก็ตามแต่ก็นำมาดัดแปลงใหม่
4.สิ่งที่ตอบมาทั้งหมดนี้ เป็นความจริง
ตอบด้วยความซื่อสัตย์ ตามเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น